วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปลากระพงนึ่งมะนาว




ปลากระพงนึ่งมะนาว

สูตรอาหารไทย ปลากระพงนึ่งมะนาว แรกเริ่มเดิมที่นั้นเป็นอาหารพื้นบ้านภาคกลาง ปัจจุบันกลายเป็นเมนูอาหารไทยยอดฮิตที่แทบทุกร้านอาหารต้องมี อีกหนึ่งเมนูที่มักจะสั่งทานเสมอเวลาไปทานข้าวนอกบ้าน สูตรอาหารปลากระพงนึ่งมะนาวเป็นการนำปลาสดๆมานึ่งจนสุกหอม แล้วราดด้วยน้ำปรุงรสจัดจ้าน เปรี้ยว แซ่บถึงใจ อีกหนึ่งเมนูเด็ดรสชาติเข้มข้นจัดจ้านครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย รับประทานร้อนๆได้ความหอมจากเนื้อปลา อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และปราศจากไขมัน เป็นเมนูอาหารไทยที่อยากให้ทุกท่านมาลองชิมมากๆครับ วันนี้จึงได้นำสูตรปลากระพงนึ่งมะนาวมาฝาก และวิธีทำก็ทำไม่ยาก…สูตรก็ตามนี้เลยครับ
ส่วนผสม 
1. ปลากระพงขาวหนัก 7 ขีด
2. กระเทียมสับหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
3. พริกขี้หนูสับหยาบ 10-30 เม็ด
(ถ้าใช้พริกขี้หนูสวนจะหอมและเผ็ดมากกว่า ปริมาณแล้วแต่ชอบ ถ้าใส่ 10 เม็ดสำหรับเผ็ดน้อย ... 30 เผ็ดมาก)
4. รากผักชีสับหยาบๆ 3 ราก
5. ต้นหอมสับ 3 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาว 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำปลากระพงมาขอดเกล็ด ควักเอาพุงปลาออก ล้างให้สะอาด แล้วบั้งขวางเนื้อปลาข้างละ 3 บั้งให้ถึงกระดูก แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ก่อนนำปลาไปนึ่งให้ใช้น้ำส้มสายชูและเกลืออย่างละ 1 ช้อนชา ผสมกัน แล้วนำไปทาตัวปลาให้ทั่ว วางใส่จาน พักไว้
3. นำน้ำสะอาดใส่ในซึ้ง ต้มให้น้ำเดือด จากนั้นให้นำปลากระพง (จากข้อ 2) ลงนึ่งในซึ้งเลยครับ แล้วปิดฝาหม้อ นึ่งไฟแรงประมาณ 10-15 นาที จนกระทั่งปลาสุก จากนั้นให้ยกปลาออกมา เทน้ำในจานปลาออกโดยใส่ถ้วยไว้ต่างหาก…อย่าทิ้ง
4. ระหว่างรอปลาสุก ให้ทำน้ำปรุงรสใส่ชามเตรียมไว้ โดยผสมกระเทียมสับ ต้นหอมสับ พริกขี้หนูสับ รากผักชีสับ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน แล้วก็เติมน้ำจากตัวปลาลงไปผสมด้วย ชิมและเติมรสให้ถูกใจ 
5. นำปลาที่นึ่งสุกแล้ว ราดด้วยน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้ เสิร์ฟร้อนๆ ประดับด้วยมะนาวฝานเป็นแว่นๆ โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ และผักชีไทยสับตามชอบครับ
(สำหรับเสิร์ฟรับประทาน 2 ที่)

ผัดพริกแกงโปรตีนเกษตร



ผัดพริกแกงโปรตีนเกษตร
สูตรอาหาร : เมื่อพูดถึงผัดพริกแกง เราก็อาจจะนึกถึงอาหารที่มีรสเผ็ดและอร่อยที่ปรุงรสด้วยเครื่องแกงไทยๆ ที่มีหลากหลายเมนูให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็นผัดพริกแกงหมู ไก่ อาหารทะเล ยิ่งถ้าใส่เป็นเนื้อหมูติดมันลงไปด้วยแล้ว ยิ่งอร่อยนักเชียว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน หรือคนรักสุขภาพเมนูนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ วันนี้เราจึงได้นำสูตรผัดพริกแกงโปรตีนเกษตรอร่อยๆมาฝากครับ เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะโปรตีนเกษตรทำจากถั่วซึ่งให้โปรตีนได้อย่างดี และปรุงรสให้อร่อยด้วยเครื่องแกงไทยๆ…รับรองว่ารสชาติอร่อยเลิศไม่แพ้ผัดพริกแกงเนื้อเลย ก็เป็นอีกเมนูที่ทำไม่ยากแต่ได้สุขภาพ รสชาติอร่อยถูกปากสไตล์คนชอบทานเผ็ด
ส่วนผสม
  1. โปรตีนเกษตรชิ้นเล็ก 2 ถ้วย
  2. พริกแกงแดง ½ ถ้วยตวง
  3. น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ใบมะกรูดหั่นฝอย 1-2 ใบ
  6. พริกชี้ฟ้า เขียว แดง อย่างละ 1 เม็ด
  7. (หั่นฝอยสำหรับโรยหน้า)
  8. น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. แช่โปรตีนเกษตรในน้ำเย็นจนนิ่ม ลวกน้ำร้อนแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนให้กรอบเหลือง ตักขึ้น พักไว้
2. ผัดพริกแกงกกับน้ำมันให้หอม ค่อยๆเติมน้ำสะอาดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล แล้วจึงใส่โปรตีนเกษตรลงผัดให้เข้ากัน ตักขึ้น โรยใบมะกรูด พริกหั่นฝอย

แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลาว




    แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลา

หน่อไม้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งแกง ต้มจิ้มน้ำพริกปลาทูก็อร่อย และอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านอีสาน นั่นก็คือ “แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลาว“นั้นเป็นแกงเดียวกัน แกงลาวเป็นแกงยอดฮิตทางภาคอีสาน ใน 1 ถ้วย รับประทานได้ไม่รู้เบื่อ ใครที่ชอบทานหน่อไม้ห้ามพลาด เพราะแกงหน่อไม้หรือแกงลาวนี้มีรสชาติอร่อยแซ่บสไตล์อีสาน อย่างน้อยต้องมีรสเผ็ดนิดๆจึงจะอร่อย และในแกงหน่อไม้ใบย่านางนี้ยังประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมาย และยังให้คุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย ดังนั้น เมนูที่จะนำเสนอวันนี้จึงเป็นอาหารจานอื่นไปไม่ได้นอกจากแกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว อาหารอีสานบ้านเฮานั่นเอง สำหรับวิธีการทำมีดังนี้…
เครื่องปรุง
  1. หน่อไม้สด หรือหน่อไม้รวกสุกสีเหลือง (ซื้อที่ตลาด) 8 หน่อ(สำหรับหน่อไม้สด…อะไรก็ได้ เช่น หน่อไม้ไผ่ตง, หน่อไม้บง (ขมๆ), หน่อไม้ไผ่บ้าน) 
  2. ปลาย่างแกะเนื้อ 1 ถ้วยตวง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  3. ชะอมเด็ด 2 ถ้วยตวง
  4. ใบแมงลักเด็ด 2 ถ้วยตวง
  5. ใบย่านางคั้นเอาน้ำ (ซื้อที่ตลาดก็ได้) 2 ถ้วยตวง
  6. น้ำปลาร้า ½ ถ้วยตวง
  7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ฟักทอง (หรือยอดฟักทอง) 2 ถ้วยตวง
  9. เห็ดฟาง (เห็ดนางฟ้า) 2 ถ้วยตวง
  10. ข้าวโพดอ่อน, บวบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)


หน่อไม้รวกสุกฝานบาง แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด 
หน่อไม้สดฝานบางๆ เพื่อที่จะนำไปต้มให้สุก
เครื่องปรุงของน้ำพริกแกง
  1. พริกขี้หนูสด ¼ ถ้วยตวง
  2. หัวหอมแดง ½ ถ้วยตวง
  3. ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข้าวเหนียวแช่น้ำ ¼ ถ้วยตวง
  5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
**โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด**

วิธีทำ
1. เตรียมหน่อไม้
  • ปอกเปลือกหน่อไม้สด จากนั้นฝานให้เป็นชิ้นบางๆ เวลาต้มจะได้สุกและหายขมเร็ว ถ้ายังขมมากก็ต้มสักสองครั้ง ชิมดูว่าจืดหรือยัง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด…ถ้าจืดแล้วก็เทน้ำต้มหน่อไม้ทิ้งไป 
  • หรือจะซื้อหน่อไม้รวกเหลืองมาเลยก็ได้…สะดวกดี ล้างน้ำสะอาดสัก 1 รอบ แล้วนำมาปรุงแกงหน่อไม้ได้เลย
2. ให้นำส่วนเฉพาะเนื้อของปลาย่างสุก โขลกรวมกันในน้ำพริกแกง
3. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุง
  • นำเห็ดฟางตัดโคนดำออก ผ่าครึ่ง ล้างน้ำไว้ให้สะอาด
  • นำชะอม ใบแมงลัก มาเด็ดยอดและใบไว้ แล้วล้างน้ำให้สะอาดพักไว้
  • นำฟักทองมาหั่นแล้วล้างน้ำให้สะอาด
  • นำใบย่านางมาเลือกเอาใบ แล้วล้างน้ำให้สะอาดคั้นเอาน้ำ พักไว้
  • คั้นใบย่านางกรองเอาแต่น้ำ (ใช้เครื่องปั่นจะเร็วกว่าใช้ครกโขลก) คือใช้ใบย่านาง 6-10 ใบ แล้วเติมน้ำ 2 ถ้วยตวงลงไป แล้วกรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้น้ำใบย่านาง 2 ถ้วยตวงแล้ว
4. นำหน่อไม้มาต้มกับน้ำใบย่านาง พอเดือดใส่น้ำพริกแกงลงคนให้ทั่ว พอเดือดอีกใส่เห็ด ฟักทอง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมดูรสชาติให้อร่อยตามชอบใจ พอน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ชะอม ใบแมงลัก คนให้ทั่ว แล้วปิดไฟ

ขั้นตอนทำซุปหน่อไม้

5. พร้อมตักเสิร์ฟรับประทานร้อนๆ (^_^)
(เสิร์ฟรับประทานได้ 1 ถ้วย)

สูตรซุปหน่อไม้



  ซุปหน่อไม้
ซุปหน่อไม้นั้นเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานที่เราค่อนข้างจะคุ้นเคย หากพูดถึงส้มตำก็ต้องมีซุปหน่อไม้ ซึ่งผู้นิยมอาหารอีสานมักจะสั่งมาควบคู่กับส้มตำด้วยเสมอ เพราะอร่อยแซ่บหลายอย่าบอกใคร แม้แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็โปรดปรานชื่นชอบเมนูอาหารไทยนี้เป็นจำนวนมาก สำหรับวิธีการทำซุปหน่อไม้นั้นคุณสามารถทำรับประทานเองได้แสนง่าย คือการนำหน่อไม้รวก มาต้มกับใบย่านางจนสุก แล้วตักเอาเฉพาะเนื้อหน่อไม้ที่เตรียมไว้และน้ำใบย่านางอีกเล็กน้อย เอามาปรุงแต่งรสชาติด้วยข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชีฝรั่ง พริกป่น คลุกเคล้ากับน้ำมะนาว น้ำปลา เพียงเท่านี้ก็ได้รสชาติอร่อยแบบแซ่บสุดๆแล้วล่ะ ที่มีสูตรขั้นตอนการทำซุปหน่อไม้ดังนี้
เครื่องปรุง
  1. หน่อไม้เผา ต้มให้สุก ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวง
  3. พริกป่น 2 ช้อนชา
  4. ข้าวคั่ว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  5. งาขาวคั่ว โขลกพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
  9. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  11. ผักชีฝรั่งหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ใบสะระแหน่ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ในขั้นตอนแรกควรเตรียมหน่อไม้ให้พร้อมปรุงเสียก่อน
  • ถ้าเป็นหน่อไม้สดจะเอามาทำซุปหน่อไม้ ต้องนำไปเผาไฟให้สุก จากนั้นให้เอากาบออกให้เหลือแต่เนื้อหน่อไม้ แล้วเอาไปล้างให้สะอาด จากนั้นเอาไปต้มให้สุก (หน่อไม้จะเหลือง) เมื่อต้มหน่อไม้สุกแล้ว นำมาเลาะเปลือกออก แล้วนำเนื้อไปทำการขูดเป็นเส้น (คือเอาช้อนส้อมหรือเหล็กแหลมอันใหม่มาขูดจากโคนของเนื้อหน่อไม้ไปทางยอดจะได้หน่อไม้เป็นเส้นๆตามยาว) จากนั้นต้องพยายามบีบนวดขยำเนื้อหน่อไม้หรือการคั้นน้ำจากหน่อไม้ให้น้ำหมดไปจากเนื้อหน่อไม้ด้วย (เพื่อให้น้ำขมในเนื้อหน่อไม้หมดไป) แล้วควรนำไปล้างทำความสะอาดอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด
  • แต่ถ้าเป็นหน่อไม้รวก หน่อไม้ดองขูดเป็นเส้นเล็กฝอย หรือหน่อไม้แบบกระป๋อง (ที่หาซื้อได้จากตลาด …แบบนี้ก็จะสะดวกดี) เตรียมโดยให้นำหน่อไม้ไปต้มกับน้ำเปล่าจนสุก ให้หายขม หายเฝื่อน...ก็นำมาปรุงซุปฯได้แล้ว
2. ให้คั้นน้ำใบย่านาง (หรือจะซื้อที่ตลาดเลยก็ได้…ก็ให้ไปทำที่ข้อ3 ได้เลย)
วิธีทำน้ำใบย่านาง คือให้นำส่วนใบย่านาง 3-4 ใบนำไปล้างทำความสะอาด แล้วนำไปใส่ครกโขลกให้ละเอียดหรือด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็ได้ แล้วเติมน้ำ 1 ถ้วยตวงลงไป เราก็จะได้น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวงออกมาแล้ว
3. ต้มหน่อไม้กับน้ำใบหญ้านาง ดังนี้คือ ใส่หน่อไม้ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำใบย่านางและเกลือเล็กน้อย แล้วพยายามกดหน่อไม้ให้จมลงในน้ำใบย่านางทั้งหมด จากนั้นเปิดไฟต้มจนหน่อไม้สุก ลักษณะคือจะมีน้ำขลุกขลิกเหลืออยู่ในหน่อไม้ต้มน้ำใบย่านาง
4. เมื่อเราต้มจนหน่อไม้สุกแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วพักให้ส่วนของหน่อไม้นั้นเย็นซะก่อน ก่อนที่เราจะนำมาทำซุปหน่อไม้
5. นำหน่อไม้ที่เตรียมไว้และน้ำใบย่าเพียงเล็กน้อยใส่ลงในครก แล้วตำเบาๆคลุกเคล้าพอให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป ได้แก่ งา ข้าวคั่ว พริกป่น (ปริมาณตามชอบ) น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำปลาร้า แล้วตำเบาๆ (ลักษณะแบบคลุกเคล้าและย้ำเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน)
6. จากนั้นให้ใส่หอมแดงซอยลงไป ตามด้วยต้นหอมซอย แล้วตำเบาๆคลุกเคล้าให้เข้ากัน
7. จากนั้นให้ใส่ผักชีฝรั่งหั่นและใบสะระแหน่ลงไป แล้วเพียงใช้ช้อนหรือทัพพีคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยไม่ต้องใช้ลูกครกย้ำแล้ว
8. จากนั้นก็ตักเสิร์ฟใส่จาน ตกแต่งบนอาหารด้วยต้นหอมซอย ผักชีใบยาว และใบสะระแหน่ เพื่อให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
(สำหรับเสิร์ฟรับประทาน 1 ที่)

สูตรข้าวผัดหมู



สูตรข้าวผัดหมู
สูตรอาหารไทย ข้าวผัดหมู เมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารพื้นๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะหาข้าวผัดหมูอร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน ปกติแล้วมักจะเจอแบบพอกินได้เท่านั้น ทั้งที่วิธีทำข้าวผัดหมูนั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย แต่ทำไมความอร่อยและน่าทานจึงแตกต่างกัน คุณอยากรู้ไหม? …เคล็ดลับของข้าวผัดหมูนั้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุง ว่าจะเพิ่มเสริมรสอย่างไรให้ถูกใจถูกปากผู้บริโภค และที่สำคัญข้าวผัดจะต้องแห้งหมาด รสชาติเข้มข้น สีสันสวยงาม และสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รับประทานนั้น ได้มาจากผักและเครื่องปรุงที่เสริมลงไป นอกจากแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแล้วยังให้รสชาติเลิศถูกอดถูกใจได้ไม่ยากอีกด้วย
เครื่องปรุง
  1. ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง
  2. หมูสับ 50 กรัม
  3. หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 1 แผ่น
  4. หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 8 กลีบ
  6. แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  10. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  12. ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
  13. มะนาว 1 ซีก
  14. แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น
(ถ้าบางอย่างไม่มีไม่เป็นไรครับ ใส่อย่างอื่นแทนได้ หรือถ้ามีแค่ข้าวกะไข่ ก็พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน)

วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เหลือง 
2. จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหมูแฮมและหมูยอลงไปผัด 
3. เสร็จแล้วใส่ข้าวสวยลงผัดให้ส่วนผสมเข้ากันจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไปผัด ปรุงด้วยซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาวผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน จากนั้นใช้ตะหลิวดันข้าวผัดขึ้นไปอยู่ข้างๆกระทะ เว้นที่ก้นกระทะไว้ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่ให้แตก จากนั้นตักข้าวที่อยู่ข้างกระทะกลบทับไข่ไว้ รอจนไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข่อยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน จัดเรียงแตงกวาและมะนาวไว้ข้างๆจานเสิร์ฟได้ทันที