วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ

ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ






ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ

ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ หรือ ข้าวหมูชุปทอด เป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยขั้นตอนการทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด ผู้อ่านสามารถลองทำตามวิธีการทำด้านล่างได้เลย
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ1-2
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ15 นาที

ส่วนประกอบ

  • เนื้อหมูสันในหั่นเป็นชิ้นหนา ½ นิ้ว (ประมาณ 450 กรัม) 3 ชิ้น
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • เกล็ดขนมปัง (กะพอประมาณ) 2 ถ้วย
  • กระเทียมโขลก 5 - 6 กลีบ
  • แป้งสาลี (กะพอประมาณ) ½ ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
  • มายองเนส หรือน้ำจิ้มหมูทอดทงคัตสึแบบญี่ปุ่น
  • ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก กะหล่ำปลีหั่นฝอย มะนาว

วิธีทำ

  • ใช้ค้อนทุบเนื้อหมูให้เป็นชิ้นบาง ๆ พอนุ่ม (ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้เป็นรูเครื่องปรุงจะได้เข้าเนื้อ) คลุกเนื้อหมูเข้ากับซีอิ๊วขาว กระเทียมโขลก หมักไว้สัก 20 นาที ใส่แป้งสาลีลงในจาน แล้วนำหมูที่หมักเสร็จนำมาคลุก ให้แป้งติดหมูทั่วๆ ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีให้เข้ากัน แล้วก็จุ่มเนื้อหมูลงไป จากนั้นก็ใส่เกล็ดขนมปังจานอีกใบ แล้วก็นำหมูที่พึ่งจุ่มไข่ใส่ลงไปคลุกอีกครั้ง หยิบหมูออกมา แล้วนำไปแช่ตู้เย็นสัก1-2 ชั่วโมง (จะทำให้แป้งติดหมูดียิ่งขึ้น)
  • ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้น เสริ์ฟพร้อมมายองเนส หรือซอสหมูทอดญี่ปุ่นทงคัตสึ กะหล่ำปลีหั่นฝอย และมะนาว รับประทานกับข้าวญี่ปุ่น หรือข้าวสวยร้อนๆ

ยำทูน่าเห็ดเข็มทอง

ยำทูน่าเห็ดเข็มทอง






ยำทูน่าเห็ดเข็มทอง

ยำทูน่าเห็ดเข็มทอง เป็นการคิดเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์และมีประโยชน์ จากเห็ดเข็มทองและปลาทูน่า

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    3-4
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ15 นาที

ส่วนประกอบ

  • ทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ 1 กระป๋อง
  • เห็ดเข็มทองหั่นเป็นท่อน 1.5 นิ้ว ½ ถ้วยตวง
  • ตะไคร้ซอยบาง 2 ต้น
  • ขิงซอยเป็นเส้น ¼ ถ้วย
  • พริกขี้หนูสวนซอย 5 เม็ด
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา ½ ช้อนชา
  • ต้นหอมผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย ¼ ถ้วย
  • คนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนชา
  • สาระแหน่เด็ดใบตามชอบ

วิธีทำ

  • นำเห็ดเข็มทองมาลวก หรือล้างให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  • เตรียมน้ำยำ โดยนำพริกขี้หนู น้ำตาล น้ำปลา และคนอร์อร่อยชัวร์ผสมให้เข้ากันในชาม แล้วพักไว้
  • นำเฉพาะเนื้อปลาทูน่ามาอุ่นบนเตาให้พอร้อน ตักลงใส่ในอ่างผสม ยีเนื้อปลาทูน่าให้พอแหลก ราดน้ำยำลงบนเนื้อปลาทูน่า ใส่ขิงซอย ตะไคร้ หอมแดง ต้นหอม ผักชี และใบสาระแหน่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

ยำไข่ดาว (สูตรซอสพริก)

ยำไข่ดาว (สูตรซอสพริก)






ยำไข่ดาว (สูตรซอสพริก)

ยำไข่ดาว เมนูไข่อีกหนึ่งเมนูที่มีวิธีการทำที่ไม่ยาก อีกทั้งยังได้รสชาติแปลกใหม่จากการทานไข่ดาวธรรมดา เพราะ ยำไข่ดาวให้รสเปรี้ยวจากน้ำยำ
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ3
  • ระยะเวลาการเตรียม20 นาที
  • ระยะเวลาการทำ5 นาที

ส่วนประกอบ

  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • หอมแขก หรือหอมใหญ่ซอยบาง ¼ ถ้วยตวง
  • มะเขือเทศหั่นเสี้ยวบาง 1 ลูก
  • พริกแดงตำ หรือซอย 2-3 เม็ด
  • ขึ้นฉ่าย ต้นหอมหั่นท่อน 1 นิ้วตามชอบ
  • เครื่องปรุงน้ำยำ
  • น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลปีบ ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1-½ ช้อนโต๊ะ
  • ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • ทอดไข่ดาวเตรียมไว้ กรอบมากกรอบน้อยตามชอบ หั่นเป็นชิ้นพอคำ พักไว้
  • จากนั้น ผสมน้ำยำในถ้วยโดยใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล ซอสพริก และคนอร์อร่อยชัวร์ คนให้เข้ากัน
  • ชิมรสตามชอบ นำไข่ลงคลุกหรือจะนำน้ำยำมาราดบนไข่ก็ได้ ใส่มะเขือเทศ หอมใหญ่ ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และพริกขี้หนูคนให้เข้ากันเบาๆ จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

ยำเซี่ยงไฮ้ทะเล

ยำเซี่ยงไฮ้ทะเล






ยำเซี่ยงไฮ้ทะเล

ยำ เป็นอาหารที่หลายๆ ท่านรู้จักกันเป็นอย่างดี มีจุดเด่นที่มีรสเปรี้ยวบวกกับรสเผ็ด จัดจ้าน เรียกได้ว่า ผู้อ่านที่ชอบทานอาหารแซบๆ ต้องชอบทานยำอย่างแน่นอน ยำที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ก็คือ ยำวุ้นเส้น แต่วันนี้ เราจะนำเสนอยำด้วยเส้นอีกรูปแบบ คือ ยำเซี่ยงไฮ้ทะเล รับรองว่า ผู้อ่านต้องติดใจเมนูนี้แน่นอน

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    3-4
  • ระยะเวลาการเตรียม30 นาที
  • ระยะเวลาการทำ15 นาที

ส่วนประกอบ

  • เส้นเซี่ยงไฮ้ต้มสุก 200 กรัม
  • ปลาหมึกหั่นชิ้นพอดีคำ 100 กรัม
  • กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 50 กรัม
  • เห็ดหูหนูหั่นชิ้นพอดีคำ 30 กรัม
  • ต้นหอมหั่นท่อน 1 ต้น
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1 ต้น
  • หอมแดงซอย 1 หัว
  • หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยวบาง ½ หัว
  • มะเขือเทศหั่นเสี้ยว 1 ลูก
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกขี้หนูซอย (มากน้อยตามชอบใจ) 10 เม็ด
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
  • ผักกาดหอมสำหรับรองจานผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  • นำเส้นเซี่ยงไฮ้มาลวกกับเห็ดหูหนูให้สุก แล้วพักไว้ ลวกกุ้งกับปลาหมึกให้สุก แล้วพักไว้
  • ปรุงน้ำยำโดยการนำพริกกับกระเทียมมาโขลกพอแหลก เติมน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และคนอร์อร่อยชัวร์ลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
  • นำน้ำยำมาผสมรวมกับเส้นเซี่ยงไฮ้ กุ้ง และปลาหมึกที่ลวกเตรียมไว้ คลุกให้เข้ากัน จากนั้นใส่หอมหัวใหญ่ หัวหอมแดง และมะเขือเทศ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากับน้ำยำ
  • ใส่ต้นหอมและขึ้นฉ่ายลงไป คนพอเข้ากัน จัดใส่จาน รองด้วยผักกาดหอม โรยหน้าด้วยผักชีพร้อมเสิร์ฟ

น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกหนุ่ม






น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกหนุ่ม เป็นอาหารท้องถิ่นทางภาคเหนือ โดยส่วนมากแล้วนิยมนำมาทานพร้อมกับแคบหมู เรียกได้ว่า ใครไปเที่ยวภาคเหนือต้องซื้อแคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มเป็นของฝาก เราจึงขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านลองทำน้ำพริกหนุ่มทานภายในบ้านตามขั้นตอนด้านล่างนี้
  • ระยะเวลาการเตรียม20 นาที
  • ระยะเวลาการทำ15 นาที

ส่วนประกอบ

  • พริกหนุ่มหรือพริกหยวก 6 เม็ด
  • หอมแดง 6 หัว
  • กระเทียม 2 หัว
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว ½ ช้อนโต๊ะ ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ชอบ

วิธีทำ

  • นำพริกหนุ่มหรือพริกหยวก หอมแดง กระเทียม มาเผา หรือคั่วในกะทะ เมื่อสุกให้ลอกเอาเปลือกออก แล้วโขลกให้เข้ากัน
  • ปรุงรสด้วย คนอร์อร่อยชัวร์ และ น้ำมะนาว ให้ได้รสตามชอบ รับประทานกับแคปหมู ไข่ต้ม และผักตามชอบ
  • หมายเหตุ หากชอบรสออกหวานให้เติมน้ำตา

น้ำพริกลงเรือ

น้ำพริกลงเรือ






น้ำพริกลงเรือ

น้ำพริกลงเรือ เป็นอีกหนึ่งในเมนูน้ำพริกที่หลายๆ ท่านติดใจ เพราะอร่อยและมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยาก น้ำพริกลงเรือนี้ส่วนใหญ่แล้วจะทานพร้อมกับหมูหวานและผักเครื่องเคียง
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ4-5
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ20 นาที

ส่วนประกอบ

  • กุ้งแห้งอย่างดีโขลกพอละเอียด ½ ถ้วย
  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 20 กลีบ
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • มะดันซอย 10 ลูก (หรือ มะม่วงสับ 1 ถ้วย)
  • มะอึกหั่นบาง 5 ลูก
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะเนื้อหมูติดมัน 200 กรัม
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล ¼ ถ้วยประมาณ 50 กรัม
  • น้ำเปล่า 100 กรัม
  • พริกขี้หนูสวน 30 เม็ด
  • น้ำตาลปีบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • หมูหวาน ½ ถ้วย
  • ไข่เค็ม 2 ฟอง
  • ปลาดุกฟูกรอบ ½ ถ้วย
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • โขลกกระเทียม กะปิ ให้ละเอียด ใส่มะดันซอย มะอึก โขลกให้เข้ากัน ใส่พริก ทุบพอแตก ใส่น้ำตาลปีบ น้ำมะนาว พักไว้
  • ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่น้ำพริกลงผัด ใส่กุ้งแห้ง และคนอร์อร่อยชัวร์ผัดให้เข้ากัน ใส่หมูหวาน ผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้มีสามรส
  • การจัดให้สวยงาม ตักน้ำพริกใส่ถ้วย นำไข่เค็มหั่นเต๋าโรยหน้า แนมด้วยหมูหวาน และปลาดุกฟู รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ใบมะกอก มะเขือต่างๆ ขมิ้นขาว ถั่วพู
  • หมูหวาน
  • หั่นหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าประมาณ 1 เซนติเมตร
  • ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่หอมแดงลงไปผัดพอหอม ใส่หมู และคนอร์อร่อยชัวร์ลงไป ผัดให้เข้ากันจนหมูสุก ใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย
  • ใส่น้ำลงไป ใช้ไฟอ่อนเคี่ยว ระวังอย่าให้หมูแข็งเคี่ยวจนน้ำตาลเหนี่ยวเป็นสีน้ำตาลอ่อน

น้ำพริกกะปิ

น้ำพริกกะปิ






น้ำพริกกะปิ

“…กินข้าวกับน้ำพริกซิจ๊ะ ถึงได้สดได้สวย...” ฟังเพลงนี้ทีไร อยากกินน้ำพริกทุกที วันนี้เราจึงนำเสนอเมนูน้ำพริกกะปิ สุดยอดอาหารคู่บ้านคู่เมืองของคนไทย ที่มักจะทานน้ำพริกกะปิกับปลาทู ชะอมชุบไข่ มะเขือยาวชุบไข่ ผักสด หรือ ผักต้ม
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ3-4
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ20 นาที

ส่วนประกอบ

  • กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมปอกเปลือกซอยหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูเด็ดก้าน 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
  • มะเขือพวงหรือมะเขือเปราะซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาทูทอด 2 ตัว
  • ชะอม 1 กำ
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา (สำหรับทำชะอมชุบไข่)
  • ผักสด หรือ ผักนึ่ง หรือผักต้ม (กะหล่ำปลี แตงกวา ผักกาดขาว มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว หรือผักอื่นๆ)

วิธีทำ

  • นำกะปิมาโขลกกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่กุ้งแห้งโขลกรวมกัน ใส่พริกขี้หนู มะเขือพวง
  • ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และคนอร์อร่อยชัวร์ คนให้เข้ากัน ชิมรสตามต้องการ
  • รับประทานกับผักต้ม เช่น ถั่วพู ถั่วผักยาว หน่อไม้ ตำลึง ผักกระเฉด ฯลฯ หรือผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา มะเขือสด ผักบุ้ง กระถิน หรือผักชุบไข่ทอด เช่น ชะอม มะเขือยาว และเครื่องเคียงน้ำพริกคือ ปลาทูทอด และไข่เจียวชะอม
  • หมายเหตุ ใช้มะม่วงดิบซอยแทนมะนาว มะดัน หรือมะขามอ่อน ตามแต่ฤดูกาล
  • วิธีทำไข่เจียวชะอม
  • ล้างชะอมให้สะอาดและเด็ดเอาใบอ่อนออกมา หั่นให้มีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว
  • ตอกไข่ไก่ใส่ในชาม ใส่คนอร์อร่อยชัวร์คนเข้ากัน จากนั้นจึงเติมชะอมที่หั่นไว้แล้ว คนต่ออีกครั้งจนไข่และชะอมผสมกันดี
  • ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่ไข่และชะอมลงไปทอด รอจนกระทั่งสุกเหลืองดี จึงปิดไฟและนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ จัดใส่จานและเสิร์ฟทานกับน้ำพริก

ข้าวยำปักษ์ใต้

ข้าวยำปักษ์ใต้






ข้าวยำปักษ์ใต้

เมนูข้าวยำเป็นเมนูที่โด่นเด่นเมนูหนึ่งของอาหารใต้ และยังเป็นเมนูสุขภาพเนื่องจากมีส่วนผสมเป็นผักหลากหลายชนิด เมนูข้าวยำนี้ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำทานเองได้ รับรองว่าได้กลิ่นอายความอร่อยแบบปักษ์ใต้อย่างแน่นอน
  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ4
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ20 นาที

ส่วนประกอบ

  • ข้าวสวย (60 กรัม) ½ ถ้วย
  • กุ้งแห้งป่น (45 กรัม) 3 ช้อนโต๊ะ
  • มะพร้าวหั่นฝอย คั่วจนเหลืองกรอบ (45 กรัม) 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูคั่วป่น (15 กรัม) 2 ช้อนชา
  • ผักถั่วงอกเด็ดหาง (25 กรัม) 1/3 ถ้วย
  • ตะไคร้หั่นฝอย (30 กรัม) 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดอ่อนหั่นฝอย (15 กรัม) 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะม่วงดิบสับหั่นเส้นเล็ก (30 กรัม) 2 ช้อนโต๊ะ
  • ถั่วฝักยาวหั่นฝอย (45 กรัม) 3 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก
  • เครื่องปรุงน้ำข้าวยำ
  • น้ำบูดู (60 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำ 1 ถ้วยตวง
  • ปลาอินทรีย์เค็ม (10 กรัม) 1 ชิ้น
  • น้ำตาลปีบ (120 กรัม) 1 ถ้วย
  • หอมแดงทุบพอแตก 300 กรัม
  • ตะไคร้หั่นท่อนสั้น (40 กรัม) 1 ต้น
  • ใบมะกรูดฉีก (7 กรัม) 3 ใบ
  • ข่ายาว 1 นิ้วทุบพอแตก (5 กรัม) 1 ชิ้น
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  • วิธีทำน้ำบูดู โดยการต้มปลาอินทรีย์จนเปื่อย แกะเนื้อปลาใส่หม้อ เติมน้ำบูดู และคนอร์อร่อยชัวร์ แล้วตั้งไฟ
  • ใส่หอม ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูดฉีก น้ำตาลปีบ ต้มต่อจนน้ำบูดูข้น ชิมให้รสเค็มนำหวาน ยกลง
  • จัดเสิร์ฟโดยตักข้าวใส่จาน ใส่มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น และผักทั้งหมด (ใส่อย่างละน้อย พอคลุกรวมกันแล้วจะมากยิ่งขึ้น) ราดน้ำบูดู ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และพริกป่นเคล้าให้เข้ากันดี

เต้าเจี้ยวหลน

เต้าเจี้ยวหลน






เต้าเจี้ยวหลน

ถ้ามองหาเมนูสุขภาพ รสชาติเด็ด ๆ พร้อมรับประทานคู่กับผักสดหลากหลายชนิดเป็นเครื่องเคียง ขอแนะนำเต้าเจี้ยวหลนให้ได้ลิ้มลองกัน นับว่าเป็นเมนูเครื่องจิ้มสไตล์ไทยๆ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองชิม

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    5-6
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ30 นาที

ส่วนประกอบ

  • เต้าเจี้ยวขาว (200 กรัม) 1 ถ้วยตวง
  • เนื้อกุ้งสับ (100 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • เนื้อหมูติดมันสับ (100 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • หัวกะทิ (375 กรัม) 1 ½ ถ้วยตวง
  • หอมแดงซอย (100 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • (แบ่งหอมแดงซอยเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสำหรับโขลกกับเต้าเจี้ยว อีกส่วนใส่ลงในเต้าเจี้ยวหลน)
  • พริกหยวกสีเขียวหั่นท่อน 1 นิ้ว 4 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าหั่นท่อน 1 นิ้ว 4 เม็ด
  • น้ำตาลปีบ 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ล้างเต้าเจี้ยวให้สะอาดแล้วบีบให้แห้ง นำไปโขลกจนละเอียดกับหัวหอม เสร็จแล้วตักออก พักไว้
  • โขลกหมูบด และเนื้อกุ้งให้เข้ากัน แล้วใส่เต้าเจี้ยวขาวที่พักไว้ลงโขลกผสมกัน (ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะถ้าโขลกหมูบดและกุ้งบดละเอียดเหนียวแล้วจะทำให้เต้าเจี้ยวหลนอร่อย)
  • นำหัวกะทิ ใส่ในหม้อ ใส่เครื่องที่โขลกลงไป ใช้ไฟปานกลางคอยคนเรื่อยๆ ไม่ให้ติดก้นหม้อ ค่อยๆ เคี่ยวจนส่วนผสมสุกข้น ใส่หัวหอมที่เหลือ พริกหยวก และพริกชี้ฟ้าลงไป เคี่ยวต่อพอให้พริกเริ่มนิ่ม
  • ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ น้ำตาลปีบ และน้ำมะขามเปียก ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ รับประทานคู่กับแตงกวา ผักกาดหอม หรือข้าวตัง
  • หมายเหตุ ถ้าชอบรสหวานสามารถเพิ่มน้ำตาลปีบได้ตามชอ

หมูย่างโอชา

หมูย่างโอชา






หมูย่างโอชา

หากคุณกำลังคิดถึงหมูย่างเมืองตรัง แต่หาเวลายากเหลือเกินที่จะเดินทางไปจังหวัดตรัง ดังนั้นเราจึงนำขั้นตอนการทำและส่วนผสมมาให้ผู้อ่านได้ลองทำกัน เรียกได้ว่า ไม่ต้องไปไกลถึงจังหวัดตรังก็สามารถทานหมูย่างอร่อยๆ ได้ โดยเราเรียกเมนูนี้ว่า หมูย่างโอชา

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    ุ6-8
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ25 นาที

ส่วนประกอบ

  • สันคอหมู 1 กิโลกรัม
  • รากผักชี กระเทียม พริกไทยตำละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสภูเขาทองฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
  • พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 9 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
  • ข้าวคั่ว 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • หัวหอมซอย 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำมาเคล้ากับหมูให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง หรือหมักไว้ข้ามคืน
  • นำหมูไปย่างไฟให้สุกทั้งสองด้าน (หรือจะอบก็ได้แล้วแต่สะดวก) รับประทานกับน้ำจิ้มแจ่ว
  • การทำน้ำจิ้ม โดยนำพริกป่น น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปีบ ข้าวคั่ว และคนอร์อร่อยชัวร์ ใส่ถ้วย ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ผักชีฝรั่ง ต้นหอม และหัวหอมซอย ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  • หมายเหตุ สามารถเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นเนื้อวัว หรือไก่ได้ตามชอบ การหมักเนื้อสัตว์ ถ้าหมักค้างคืนจะทำให้เข้าเนื้อมากขึ้น ส่วนน้ำจิ้มแจ่ว หากชอบเผ็ดสามารถเติมพริกป่นเพิ่มได้ตามชอ

แกงเผ็ดไก่

แกงเผ็ดไก่ (สูตรสำเร็จ)






แกงเผ็ดไก่ 

แกงเผ็ดไก่ เป็นอาหารที่เป็นที่ได้รับความนิยม เรียกได้ว่า ทุกร้านอาหารไม่ว่า จะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ต้องมีแกงเผ็ดไก่เป็นหนึ่งในเมนู ซึ่งขั้นตอนการทำแกงเผ็ดไก่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด คุณสามารถทำเองได้ โดยทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    6-7
  • ระยะเวลาการเตรียม30 นาที
  • ระยะเวลาการทำ15 นาที

ส่วนประกอบ

  • เนื้ออกไก่หั่นบาง ชิ้นพอคำ 200 กรัม
  • มะเขือเปราะ 1 ลูก ผ่า 4 ซีก 200 กรัม
  • หัวกะทิ (250 มล.) 1 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า หรือหางกะทิ (250 มล.) 1 ถ้วยตวง
  • คนอร์สูตรสำเร็จแกงเผ็ด 1 ซอง
  • ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
  • ใบโหระพาประมาณ ¼ ถ้วยตวง

วิธีทำ

  • ผัดไก่กับหัวกะทิด้วยไฟปานกลางจนสุก และกะทิแตกมัน
  • เติมน้ำใส่คนอร์สูตรสำเร็จแกงเผ็ดคนให้ละลาย ต้มจนเดือด ใส่มะเขือต้มต่อสักครู่จนมะเขือสุก
  • ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพา คนให้เข้ากันตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
  • หมายเหตุ หากไม่ชอบเนื้ออกไก่ สามารถใช้ส่วนอื่นแทนได้ เช่นสะโพกไก่ หรือไก่ติดกระดู

แกงเผ็ดเป็ดย่าง

แกงเผ็ดเป็ดย่าง






แกงเผ็ดเป็ดย่าง

แกงเผ็ดที่รู้จักโดยทั่วไปนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแกงเผ็ดหมู แกงเผ็ดไก่ วันนี้เราจะนำเสนอเมนูแกงเผ็ดอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ซึ่งเป็ดย่างจะทำให้รสชาติและกลิ่นหอมของแกงเผ็ดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญคืออร่อยไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    4
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ20 นาที

ส่วนประกอบ

  • เป็ดย่างแล่เอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 250 กรัม
  • หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
  • หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
  • สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ ½ ถ้วยตวง
  • มะเขือเทศสีดา 5 ลูก
  • องุ่นม่วง 10 ลูก
  • ลิ้นจี่เอาเม็ดออก (ใช้ลิ้นจี้กระป๋อง) 4 ลูก
  • มะเขือพวง 20 ลูก
  • พริกชี้ฟ้าแดง หั่นเฉียง 2 เม็ด
  • ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปีบ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน
  • ใบโหระพาเด็ดใบ
  • ส่วนผสมเครื่องแกง
  • พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง 10 เม็ด
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนชา
  • กระเทียมซอย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผิวมะกรูดซอย ½ ช้อนชา
  • รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ลูกผักชีคั่วป่น 1 ช้อนชา
  • ยี่หร่าคั่วป่น ½ ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา

วิธีทำ

  • นำส่วนผสมเครื่องแกงทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียด นำหัวกะทิไปเคี่ยวให้แตกมันด้วยไฟปานกลาง นำเครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่เป็ดย่างลงไป
  • ปรุงรสด้วยคนอร์ซุปไก่ก้อน น้ำปลา และน้ำตาลปีบ
  • ตักหางกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวให้เข้าเนื้อสักครู่ ใส่สับปะรด มะเขือพวง องุ่นม่วง ลิ้นจี่และมะเขือเทศสีดาลงไป คนให้สุก
  • ใส่พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูดและใบโหระพาลงไป จัดใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ หมายเหตุ การใช้กะทิกล่อง ถ้าต้องการหางกะทิให้ใช้น้ำเปล่าผสม โดยใช้อัตราส่วนคือกะทิ 1 ถ้วยตวง ต่อน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง กะทิกล่องจะเคี่ยวให้แตกมันช้า ให้ใช้น้ำมันช่วยผัดกับกะทิ จะทำให้ร้อนและแตกมันเร็วขึ้น อาจใส่ผลไม้ที่มีรสอมเปรี้ยวอื่นๆ ได้ เช่น ลิ้นจี่ มะม่วง ลักษณะของอาหาร เป็นแกงที่มีน้ำข้นเล็กน้อย มีมันสีแดงลอยหน้า สีน้ำแกงแดงสด หอมกลิ่นเครื่องเทศ มีรสเค็ม เผ็ด หวานกะ
    ทิ

แกงเปรอะ

แกงเปรอะ






แกงเปรอะ

เมนูแกงเปรอะ หรือ ต้มเปรอะ นับได้ว่าเป็นอาหารที่เสมือนยาบำรุงร่างกายได้เลยทีเดียว มีทั้งผักมากมายหลากหลายชนิด แถมยังถูกปรุงให้รับประทานได้ง่าย เป็นอีกเมนูสำหรับคนใส่ใจสุขภาพเลยทีเดียว

  • จำนวนคนที่เสิร์ฟ
    5-6
  • ระยะเวลาการเตรียม25 นาที
  • ระยะเวลาการทำ25 นาที

ส่วนประกอบ

  • หน่อไม้รวกเผา หั่นเป็นชิ้นบาง (5 หน่อ) 1 ถ้วยตวง
  • ใบย่านาง 30 ใบ 1 ถ้วยตวง
  • เห็ดฟางผ่าครึ่ง (100 กรัม) 1 ถ้วยตวง
  • ชะอมเด็ดสั้น (50 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • ฟักทองหั่นชิ้นพอคำ (50 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • ข้าวโพดข้าวเหนียวฝานเอาแต่เมล็ด (50 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • แมงลักเด็ดเป็นใบ ½ ถ้วยตวง
  • ตะไคร้ทุบหั่นท่อน 2 ต้น
  • น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 2 ถ้วยตวง
  • คนอร์ซุปเห็ดหอมก้อน 1 ก้อน
  • ข้าวเบือ (15 กรัม) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา (30 กรัม) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ส่วนผสมน้ำพริกแกง
  • พริกขี้หนู 10-15 เม็ด
  • หัวหอมแดง 7 หัว
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำ

  • โขลกข้าวเบือให้ละเอียด พักไว้
  • เตรียมเครื่องแกงโดยโขลก พริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม และเกลือ ไม่ต้องละเอียดมาก (สามารถใช้เครื่องปั่นได้) พักไว้
  • เตรียมหน่อไม้โดยต้มน้ำทิ้ง 2-3 ครั้ง ให้หายขื่น โขลกใบย่านาง แล้วนำไปคั้นกับน้ำ ให้น้ำใบย่านางออก กรองใส่หม้อ นำหม้อที่ใส่น้ำใบย่านางตั้งไฟ ใส่หน่อไม้
  • พอเดือดใส่คนอร์ซุปเห็ดหอมก้อน เครื่องแกง ตะไคร้ ข้าวเบือ, น้ำปลาร้า และน้ำปลา ต้มพอเดือด ใส่ฟักทอง เห็ดฟาง และข้าวโพด ต้มจนส่วนผสมทั้งหมดสุก ใส่ชะอม ใบแมงลัก คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
  • หมายเหตุ ข้าวเบือ คือ ข้าวเหนียวแช่น้ำประมาณ 20 นาที แล้วนำมาโขลกให้ละเอีย